วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เสียงคนวงนอก : ปรากฏการณ์ “ พงษ์พัฒน์ “ เมื่อชนชั้นกลางไทย “ ดัดจริต “

เสียงคนวงนอก : ปรากฏการณ์ “ พงษ์พัฒน์ “ เมื่อชนชั้นกลางไทย “ ดัดจริต “ vote

เสียงคนวงนอก : ปรากฏการณ์ “ พงษ์พัฒน์ “ เมื่อชนชั้นกลางไทย “ ดัดจริต “


โดย : TonyMao_NK51
E – Mail : tonymao_nk51@hotmail.com

อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะเขียนถึงเท่าไร ผมไม่ใช่นักวิจารณ์สายบันเทิง และช่วงนี้ก็เอาแต่ลุ้นใจจดใจจ่ออยู่กับสถานการณ์การชุมนุมของเสื้อแดง ว่า ศอฉ. และรัฐบาลชุดนี้จะทำอย่างไรต่อ เมื่อยิ่งปราบ ก็เหมือนยิ่งยุ ล่าสุดที่ชลบุรีก็มีเสื้อแดงไปปิดทางเข้าท่าเรือแหลมฉบังเป็นที่เรียบร้อย และมาจนวันนี้ ถ้าใครไปถามมวลชนเสื้อแดง เขาก็คงไม่แคร์ที่จะถูกมองว่าเป็น “ กองกำลังติดอาวุธ “ อีกต่อไป ด้วยอารมณ์มวลชนที่โกรธแค้น พวกเขาพร้อมจะสู้ แม้ว่าวันนี้จะมองไม่เห็นทางชนะก็ตาม

แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่สบายใจ และอาจจะออกอาการ “ ไม่สบอารมณ์ “ , “ หมั่นไส้ “ , “ โกรธเคือง “ หรืออะไรก็ช่างเท่าที่จะหาคำมาบรรยายได้ ต้องยกให้กับวาทะทองในงานนาฎราช ที่คุณพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง ได้กล่าวเมื่อขึ้นไปรับรางวัลเมื่อคืนที่ผ่านมา ความจริงแล้ว ไม่ใช่ความผิด และไม่ใช่สิ่งที่ผมจะต้องไปต่อว่าคุณพงษ์พัฒน์ ในเรื่องที่เขาได้กล่าวเช่นนั้น ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ค่อยจะปกติเท่าไร แต่ที่ผมบอกว่าไม่สบายใจ คือกระแสสังคมโดยเฉพาะชนชั้นกลาง ที่มีฐานกำลังในโลกไซเบอร์ เน้นหนักไปที่ห้องเฉลิมไทย ณ Pantip.com เพราะกระทู้แนะนำนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผมไม่เคยพบมาก่อน เรื่องของงานนาฏราชและคุณพงษ์พัฒน์ขึ้นกระทู้แนะนำในห้องนี้ทั้งหมด และแน่นอนสิ่งที่ตามมา ราวกับว่ามันเป็นนิสัย ( ที่พวกเขาไม่เคยยอมรับ ) ว่าคนห้องนี้ชอบหาช่องที่จะทำการแขวะ จิก กัด ฝ่ายเสื้อแดงและคนรักอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรอยู่บ่อยๆ แต่พออีกฝ่ายจะตอบโต้ ก็จะถูกไล่กลับไปห้องราชดำเนิน ฐานหลักของพวกเสื้อแดงและคนรักทักษิณ แม้แต่วันนี้ที่ห้องราชดำเนินถูกปิด คนพวกนี้ก็ยังจะไล่เขาไปที่อื่นโดยอ้างว่า “ ไม่ใช่บอร์ดการเมือง “ ( แต่พวกตัวเองแขวะพวกเสื้อแดงกันสนุกปาก สนุกมือ )

ออกตัวไว้ก่อน ผมไม่ใช่เสื้อแดง ( เดี๋ยวนี้แทบจะถูกยัดเยียดว่าเป็นแดงไปแล้ว ดีไม่พ่วงข้อหาล้มเจ้าไปด้วยอีก ) แต่เพียงเพราะว่าผมรู้สึกถึงความ “ 2 มาตรฐาน “ ที่ปรากฏบนโลกไซเบอร์ แน่นอนว่าคนที่มีเวลา และมีความรู้เพียงพอที่จะมานั่งเฝ้าหน้าจอ Webboard ไม่ว่าฝ่ายไหน โดยมากก็คงเป็นในระดับชนชั้นกลางกันทั้งนั้น ( ชนชั้นกลางในที่นี้คือคนทำงานที่มีรายได้พอจะมีคอมพิวเตอร์ไว้ที่บ้าน หรือมีการศึกษาค่อนข้างดี อาศัยอยู่ในเขตเมืองและชอบวัฒนธรรมกระแสหลักของชุมชนเมือง เช่นเกาหลี Fever หรือการตามกระแสภาพยนตร์ เพลงใหม่ๆ ตามสมัยนิยมอยู่ตลอดเวลา ) ดังนั้นชนชั้นกลางส่วนใหญ่จึง “ ไม่อาจปฏิเสธ “ ในสิ่งที่ผมกำลังกล่าวถึงนี้ได้

“ ถ้ามีใครสักคนโกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ แต่ พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกคนๆ นั้นว่า ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ ที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และผมก็เชื่อว่าทุกคนก็รักในหลวงเหมือนกัน “ ความจริงก็เป็นเรื่องปกติหากใครสักคนที่ได้รับรางวัลจะกล่าวอะไรสักอย่าง และก็คงเป็นเรื่องปกติอีกที่คนไทยส่วนใหญ่จะให้ความเคารพในสถาบันพระมหา กษัตริย์ ( โดยเฉพาะรัชกาลปัจจุบัน เพราะท่านมีพระราชกรณีกิจมากมาย แม้ว่าพวกล้มเจ้าบางส่วนพยายามจะโจมตีก็ตาม ) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การที่ชนชั้นกลางไทยส่วนใหญ่พยายาม “ อ้าง “ ว่าจงรักภักดีหรือเทิดทูนสถาบันฯ บอกว่าท่านไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ชนชั้นกลางกลุ่มเดียวกัน ก็พยายามจะ “ ดึงฟ้าต่ำ “ ด้วยการที่บ่อยครั้ง ชนชั้นกลางเหล่านี้อดไม่ได้ที่จะต้องเปรียบเทียบกับนักการเมืองที่คน อีกกลุ่มชื่นชอบ และก็ทำการ “ ยัดเยียด “ ให้อีกฝ่ายนั้นกลายเป็น “ พวกไม่รักพ่อ – พวกล้มเจ้า “ ไปเสียทั้งหมด ชนชั้นกลางเหล่านี้พากันพร่ำพูดแต่คำว่า “ สงบ สันติ สามัคคี “ ให้เสื้อแดงเลิกชุมนุม ( แต่คนกลุ่มนี้ไม่น้อยที่พยายามจะ “ อวด “ ว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของเสื้อเหลือง ) ชนชั้นกลางเหล่านี้พยายามเรียกหาเมืองไทยที่เป็น “ สยามเมืองยิ้ม “ ( แต่คนกลุ่มนี้อีกที่ส่งเสริมกระแส License To Kill พวกเสื้อแดงที่ออกมาชุมนุม ไปหาอ่านใน FaceBook หรือ Webboard ที่พวกนี้สุมหัวกันได้ครับ ผมไม่ได้กล่าวเกินเลยแต่อย่างใด )

ผมไม่ปฏิเสธว่ามันมีพวกล้มเจ้าอยู่จริงๆ และแฝงตัวในกลุ่มเสื้อแดง แต่ถามว่าพวกนี้มีเท่าไร และมีบทบาทแค่ไหน เพราะเห็นบรรดาแกนนำสายนี้ส่วนใหญ่เผ่นหนีไปอยู่ต่างประเทศ บางคนก็โดนจับติดคุกไปแล้ว นั่นแสดงว่าคนส่วนใหญ่ในเสื้อแดงก็ไม่เอาด้วย มวลชนส่วนใหญ่ที่เขามานั้น เขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เขารู้สึกมานานแล้วว่า “ ทำไมมีแต่กรุงเทพฯ ที่ตัดสินอนาคตประเทศ พวกเขาไม่ใช่พลเมืองเท่าเทียมกันหรือ? “ เขารู้สึกกันแค่นั้นจริงๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชนชั้นกลางไม่พยายามทำความเข้าใจ ทั้งที่เอาจริงๆ แล้วเข้าใจได้ไม่ยาก ถามว่าทุกวันนี้กรุงเทพฯ อยู่ได้เพราะอะไร?

- ไม่ใช่เพราะข้าวที่ชาวนาตามต่างจังหวัดปลูกแล้วต้องขายให้โรงสีราคาต่ำๆ เพื่อให้โรงสีเอามาขายให้ชนชั้นกลางในเมืองกินในราคาที่ไม่แพงเกินไปหรือ? เราจึงมีข้าวหอมๆ กินกันในราคาไม่แพง จึงกินทิ้งขว้าง ไม่รู้จักคุณค่าของมัน ( คนเดี๋ยวนี้จำกลอน “ ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง...ได้ไหม? ไปหาดูพฤติกรรมชนชั้นกลางตอนนี้ละกัน )

- ไม่ใช่เพราะชาวต่างจังหวัด ยอมถูกเวนคืนที่ดินมากมายให้รัฐบาลสร้างเขื่อนไว้ผลิตกระแสไฟฟ้าและเก็บกัก น้ำเวลาเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือแม้แต่ยอมให้บ้านตัวเองถูกน้ำท่วมหรือ? กรุงเทพฯ จึงไม่เคยถูกน้ำท่วมหนักเลยตลอดเวลาผ่านมา และมีไฟฟ้าไว้ใช้แบบผลาญกันเต็มที่ ( ปีที่แล้วบางนาน้ำท่วม คน กทม. โวยวายจะเป็นจะตาย แต่ จว. อื่นๆ น้ำท่วม ทำไมพวกเขาไม่มาประท้วงบ้าง? )

- ไม่ใช่เพราะคนรากหญ้าทั้งใน ตจว. และใน กทม. หรือที่ยอมทนทำงานแค่ค่าแรงขั้นต่ำ นอกนั้นก็อยู่ได้เพราะค่าล่วงเวลา ( OT ) ด้วยสภาพบังคับที่ต้องส่งเงินกลับบ้านท่ามกลางค่าครองชีพในตัวเมืองที่สูง ขึ้น เราจึงมีสินค้ามากมายใช้กันในราคาไม่แพง ( แต่สื่อกระแสหลักให้ความสนใจแต่ “ หุ้นและ GDP “ มากกว่าสวัสดิภาพแรงงาน แถมถ้าผู้ใช้แรงงานจะตั้งกลุ่ม ก็โดนมองว่าเป็นคอมมิวนิสต์? )

กล่าวมาถึงตรงนี้ก็ให้น่าประหลาดใจ ชนชั้นกลางผู้ประกาศตนว่าคุณธรรมจริยธรรมสูงส่ง ชอบเห็นอกเห็นใจคนยากจน มีการรับบริจาคที่ไหน ก็พากันเอาสิ่งของเหลือใช้ ( ก็คือของที่เบื่อแล้ว คือหาซื้อง่ายไง เลยเบื่อง่ายด้วย ) ไปบริจาคให้ หรือพอมีฤดูกาลออกค่ายอาสา ก็พากันไปสร้างโน่นสร้างนี่ให้ ( ยิ่งถ้าพอมีดาราไปด้วย ยิ่งฮือฮา ปั่นกระแสยกย่องกันใหญ่ ) แต่พอพวกเขาจะมาเรียกร้องในสิ่งที่เขาควรจะได้ หรือแค่เขาบอกว่าเขารักคนของเขา รักคนที่เขาเลือกมาให้ทำหน้าที่แทนเขา ก็ไปบอกว่าเขาโง่บ้าง ทำลายชาติบ้าง ซ้ำร้ายก็คือไปบอกว่าพวกเขาคือพวกล้มเจ้า ต้องการเปลี่ยนไปสู่ระบอบอื่น? ก็น่าแปลกว่าทำไมชนชั้นกลางไม่พยายามทำความเข้าใจ หรือโลกของชนชั้นกลางมีแค่ผับ , พาราก้อน , เซ็นทรัลเวิลด์ เกาหลีฟีเวอร์ ฯลฯ โดยลืมไปแล้วว่าเบื้องหลังกระแสเหล่านั้น คือจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องแบกรับกรุงเทพฯ ไว้เหนือหัวเพื่อไม่ให้เกิดอะไรขึ้น ราวกับไข่ในหิน?

ผมยังเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังสนันสนุนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ไม่ว่าวันนี้พวกเขาจะมีทั้งสีเหลือง หรือสีแดงก็ตาม แต่ก็น่าแปลกอีกที่กลุ่มสนับสนุนสีเหลือง ( หรืออย่างน้อยก็คือไม่ชอบสีแดง ) พยายามอ้างว่าที่ทำอยู่ “ เพื่อปกป้องสถาบัน “ ทั้งที่รัฐธรรมนูญก็ระบุแล้วว่าสถาบันฯ อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง แล้วจะไปดึงฟ้าต่ำ ไปอ้างเบื้องสูงมา Discredit อีกฝ่ายไปเพื่ออะไร? ทำแบบนี้ไม่เข้าทางพวกล้มเจ้าหรอกหรือ? อย่าลืมว่าคนพวกนี้จ้องอยู่ การทำแบบนี้มันเข้าทางหมด ( แค่พฤษภา 35 พวกนี้ยังพยายามจะเอามาปลุกปั่นประชาชนอยู่เลย หาอ่านได้ในบอร์ดใต้ดินทั่วไปครับ )

ผมยังยืนยันคำเดิม ว่าคนไทยต้องโตได้แล้ว ปัญหาการเมืองต้องแก้กันเอง คือคนไทยต้องช่วยกันแก้ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางการเมืองตอนนี้ หรือว่าปัญหาโครงสร้างประเทศก็ตาม ถ้าบอกว่าจงรักภักดีจริง ก็อย่าไปนำสถาบันฯ มาเป็นเครื่องมือในการทำลายอีกฝ่าย ถ้าไม่พอใจเสื้อแดง ก็บอกไปเลย ไม่พอใจเพราะอะไร ถกเถียงกันไปตรงๆ ไม่ต้องทำดัดจริตว่าไม่ใช่บอร์ดการเมือง ( แต่ยังแขวะเสื้อแดงว่าไม่รักพ่อ? ) มันจะดีกว่าไหม? เท่านี้พวกล้มเจ้าก็จะไม่มีข้ออ้างอีกต่อไป เพราะเราต่างก็แก้ปัญหาการเมือง ด้วยตัวของเรา “ คนไทย “ ด้วยตัวเอง

อย่าให้ปรากฏการณ์ “ พงษ์พัฒน์ “ ในครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นอีกเลย จะดีกว่าไหม?

ชนชั้นกลางผู้เสพดราม่า และความดัดจริตทั้งหลายครับ?

.......................................................

จากคุณ : Avatar of TonyMao_NK51 (2)
เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 17:10:11 A:61.90.123.193 X: TicketID:246102